Dear friends,
Free Tibet Network, together with Thai Labour Campaign, Social Critic Group - Chulalongkorn University, Workers Democracy Group, Social Democracy Study Group - Thammasat University, Young People for Democracy - Thailand, would like to invite all student activists, NGO activists, and peace-lovers to join the preparatory meeting to prepare for the protest of the Olympic torch relay (which is set to be held on Saturday 19 April).
The meeting will be held at the Students Christian Center (SCC) near Rajathewi BTS Station at Thursday 17 April 2008, at 7.00 pm.
For more information, please contact 086 603 8844, 081 176 3110 and http://notorch.blogspot.com/
เครือข่ายทิเบตเสรี ร่วมกับโครงการณรงค์เพื่อแรงงานไทย กลุ่มสังคมวิจารณ์ จุฬาฯ กลุ่มประชาธิปไตยแรงงาน กลุ่มศึกษาสังคมประชาธิปไตย มธ. และศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย ขอเชิญเพื่อน ๆ นักศึกษา นักกิจกรรม และประชาชนที่รักความเป็นธรรมร่วมประชุมวางแผนการประท้วงในโอกาสที่ครบเพลิงโอลิมปิคจะผ่านกรุงเทพ (คบเพลิงจะผ่านวันเสาร์ที่ 19 เมษายน)
การประชุมวางแผนจะจัดที่ศูนย์กลางนักเรียนคริสเตียน ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ราชเทวี วันพฤหัสที่ 17 เมษายน เวลา 19.00 น.
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติ่ม ติดต่อ 086 603 8844, 081 176 3110 และ
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
2 comments:
I'm so sorry I just found your blog 5 minutes ago! I missed the meeting.
What are your plans for Saturday? Me and a bunch of my friends at FACT (http://facthai.wordpress.com/) are planning to be there. Will we be able to join you guys?
ถ้าอย่างงั้นก็ไม่มีประเทศไหนจัดโอลิมปิคได้เลยครับ ไม่มีประเทศไหนอยู่ได้โดยไม่กระทบสันติภาพ มนุษยธรรมประเทศอื่น ทุกประเทศต้องมีโจทก์หมด การจัดงานโอลิมปิคนั้นเป็นงานเทศการที่ควรจะมีกาละเทศในการประท้วง ผมจำไม่ได้ว่าเคยมีการจู่โจมคบไฟโอลิมปิคมาก่อนหรือไม่ เท่าที่เดาไม่น่ามีและครั้งนี้ก็ครั้งแรก ซึ่งใช้ชนวนเหตุเป็นเรื่องภายในของประเทศหนึ่งซึ่งพิสูจน์จากข้อเท็จจริงแล้วว่าเค้า(จีน)ครอบครองธิเบตอย่างถูกต้อง ได้รับการรับรองจากคณะมนตรี(ถาวร)ใน UN มาแล้วด้วย ด้วยเหตุทั้งหลายนี้มันเป็นการผิดมารยาทมากๆที่จะตบหน้าเจ้าภาพด้วยเรื่องที่ สื่อตะวันตก เอ็นจีโอฯ แล้วก็อดีตผู้ปกครองผลัดถิ่น จะมาทำกันแบบนี้
ทำไมจีนไม่มีสิทธิ์ครอบครองธิเบต? จริงอยู่ธิเบตมีสิทธิ์ต่อต้าน แต่ไม่ใช่เรื่องที่เราจะเข้าไปทำให้มันวุ่นวายในเวลาที่กำลังจัดเทศกาลกัน โอลิมปิคผมก็ว่าเหมือนฟุตบอลโลกที่ใช้คนเล่นเป็นทีมแทนกองทหารที่รบกัน มันมีเรื่องชาตินิยม การกระหายชัยชนะ มันเป็นเกมส์สงครามจำลองมีไว้เพื่อให้คนทั้งโลกสนุกกับการขับเขี้ยวกันในนั้นมากกว่าที่จะรบกันจริง ตายกันจริง เสียหายกันจริงและเจ็บแค้นกันจริง เป็นมหกรรมเลี่ยงสงครามเพื่อสันติภาพในหมู่มวลมนุษย์ ทุกคน(ประเทศ)ที่เข้าสู่ห้องซิมูเลชั่นสงครามจำลองนี้มีกติการ่วมกันที่จะละทิ้งอาวุธ,ความขัดแย้งและผลประโยชน์ไว้นอกห้อง เข้าไปแต่ตัวเปล่าแล้วสนุกกับการต่อสู้เกมส์สงครามจำลองให้เต็มที่ เอาให้สุดจนพอใจแล้วก็เลิกรากันไป ยอมรับการแพ้ชนะแบบมีน้ำใจนักกีฬา เมื่อเสร็จสมอารมณ์หมายแล้วก็ทิ้งความแค้น(ถ้ามี)ในการพ่ายแพ้ไว้ในห้องนั้น เดินออกมาพร้อมด้วยใจที่ปราศจากความรุนแรงระหว่างประเทศเพราะได้ระบายไปในการแข่งขันจนหมดสิ้น หากยังมีติดเหลือออกมานอกห้อง ก็ไประบายต่อในห้องหรือรออีก 4 ปีห้องนี้จะเปิดใหม่ขึ้นอีกครั้ง ระบบโอลิมปิคหรือฟุตบอลโลกมันเป็นแบบนี้ เป็นกติกา กฏเกณ์ที่หมู่มวลมนุษย์พร้อมใจกันตั้งขึ้นและปฏิบัติมันเพื่อประโยชน์สุขร่วมกัน
แต่ตอนนี้มีการละเมิดกฏเกณฑ์นี้เสียแล้ว ความขัดแย้งที่ควรทิ้งไว้นอกห้อง กลับมีคนละเมิดด้วยการนำเข้ามาในห้อง รบกวนผู้คนที่กำลังจะเริ่มเล่นเกมส์สงครามจำลองด้วยหมายจะให้เกิดผลประโยชน์แก่ตนเอง ผู้คนก็จะถอดเครื่องซิมูเลชั่นนี้แล้วเริ่มทะเลาะกันด้วย แค้นกันจริง เสียหายกันจริง จากนั้นความขัดแย้งก็จะลามออกนอกห้อง เหล่ามนุษย์ที่มิได้ระบายความแค้นกับห้องนี้(เพราะห้องมันมีคนทะเลาะกันอยู่ข้างใน) นอกห้องก็เริ่มจับอาวุธจริงขึ้นมาต่อสู้กัน
จริงอยู่ ไอ้ห้องนี้เหมือนเป็นการหลอกตนเองของมนุษย์ชาติ แต่เมื่อการหลอกตนเองของมนุษย์ชาติสามารถทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์รอดจากการทำลายล้างกันเองได้ มันก็ดีมิใช่หรือในเมื่อมนุษย์ยังไม่อาจพ้นไปจากโมหะโทสะใดๆ ป่วยการที่จะให้มนุษย์ทุกคนบรรลุอรหันต์กันหมด ฉะนั้นผมขอประณามคนที่วางแผนก่อการจลาจลที่ลาซาในช่วงเวลาสุกดิบก่อนพิธีการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิคจะเริ่มขึ้นเพื่อล่อให้ตำรวจ-ทหารจีนเข้ามาปราบแล้วตีข่าวนำไปกระตุ้น โฆษณาให้คนอื่นกระทำการผิดกาละเทศในพิธีโอลิมปิค ร่วมกันตบหน้าเจ้าภาพครั้งนี้ มันจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศร้าวลึกลงไปอีก จีนกับตะวันตกจะไม่สามารถประณีประนอมข้อขัดแย้งได้อย่างนุ่มนวลเหมือนเก่า เพราะใคร?
พวกคุณอาจจะประท้วงกันด้วยไม่คิดอะไร เห็นเค้าทำก็ทำเห็นเค้าโฆษณาก็เชื่อ ทำไปสนุกๆตามกระแส แต่สิ่งที่คุณทำขอให้ระลึกไว้เสมอว่าคุณได้ละเมิดกฏที่มนุษย์ร่วมกันจัดตั้งขึ้นมาแล้ว เมื่อกฏเกณฑ์ที่ถูกละเมิดครั้งหนึ่ง ครั้งต่อๆไปก็จะถูกละเมิดอีก แทนที่จะคิดว่าครั้งหนึ่งมันเคยถูกละเมิดมาแล้ว(กรณีสหรัฐบอยคอต-กับที่สหภาพโซเวียตบอยคอตกลับ) เราควรจะรักษาไว้ไม่ให้มันเกิดอีก พวกคุณกลับคิดว่ามันควรจะเกิดอีกโดยที่ไม่ได้ไตร่ตรองอย่างรอบคอบถึงความเหมาะสมอย่างถี่ถ้วน สื่อต่างประเทศ เอ็นจีโอต่างประเทศเค้าทำต่อๆกันมา ตกทอดถึงประเทศไทย เอ็นจีโอเมืองไทยที่มีความสัมพันธ์กับต่างชาติไม่ควรน้อยหน้าต้องทำตามด้วย มันสมควรแล้วหรือครับที่เราต้องทำตามโดยไม่ได้ไตร่ตรองถึงที่มาที่ไป? ผมถามหน่อย ถามกลุ่มรณรงค์เพื่อแรงงานไทย กลุ่มสังคมวิจารณ์ จุฬาฯ กลุ่มประชาธิปไตยแรงงาน กลุ่มศึกษาสังคมประชาธิปไตย มธ. และศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย คุณเคยคิดบ้างไหม? เคยวิพากษ์หรือตรวจสอบบ้างไหม? เคยฟังข้อมูลด้านตรงข้ามบ้างไหม? เคยตระหนักในสิ่งที่ตนทำบ้างไหม? เคยคิดจะสงสัยในสิ่งที่คนอื่นหวังหรือส่งมาให้ทำบ้างไหม? หรือไม่เคย? ต่างประเทศส่งไม้มาให้คุณก็รับๆไปแล้วเอาไปวิ่งต่อ แบบนี้ภาษกฏหมายที่ใช้ด่าอัยการที่เอาแต่รับสำนวนฟ้องตำรวจมาแล้วไม่เคยตรวจว่าควรจะฟ้องหรือไม่ ประทับตราแล้วส่งฟ้องเลย เค้าเรียกว่า ทำตัวเหมือน"บุรุษไปรษณีย์"
คุณกำลังทำตัวเป็นบุรุษไปรษณีย์ใช่หรือไม่เหล่าเอ็นจีโอฯไทยทั้งหลาย ตอบหน่อยสิ เคยพิจาณาถึงความเหมาะสมบ้างไหม? หรือว่าเอ็นจีโอเอาแต่ประท้วงกันไปวันๆอย่างไร้สมอง? ไม่ได้ฉุกคิดให้เท่าทันว่าสิ่งที่ตนเองกำลังทำลงไปอย่างภาคภูมิว่ามีส่วนร่วมในระดับโลกเนี้ย? มันจะมีผลกระทบอะไรตามมามั้งครับ?
(จากมาช้าแต่มาแล้ว ขาประจำเว็บฯ ฟ้าเดียวกัน-ประชาไท)
Post a Comment